โอลิมปิกปาร์ค หรือสวนสาธารณะโอลิมปิก ตั้งอยู่ในเขตซงพา (Songpa-gu), กรุงโซล ที่มีพื้นที่ใหญ่กว่า 1.45 ล้านตารางเมตร ! เป็นอีกหนึ่งจุดนัดพบระหว่างครอบครัวเพื่อมาสังสรรค์ ปิกนิก พักผ่อนหย่อนใจกับใบไม้เขียวขจี ในฤดูใบไม้ร่วงสามารถชมใบไม้เปลี่ยนสีได้ตลอดทาง, เป็นหนึ่งจุดนัดพบสำหรับวัยรุ่น เพราะที่นี่มีทั้งสเตเดียมขนาดใหญ่ (Olympic Gymnastics Arena) ที่เคยใช้เป็นสถานที่จัดการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกฤดูร้อนเมื่อปี 1988 และปัจจุบันก็ใช้เป็นสถานที่จัดงานคอนเสิร์ตระดับประเทศของศิลปินทั้งในประเทศและต่างประเทศ สามารถจุคนได้มากถึง 14,730 ที่นั่ง และอีกหนึ่งจุดสำหรับผู้ที่อยากมาซึมซับประวัติศาสตร์ เพราะที่แห่งนี้มีการขุดพบโบราณวัตถุในสมัยเพ็คเจ (Baekje) อีกด้วย
จะเห็นได้ว่า Olympic park ที่โซลนั้น ไม่ใช่แค่ใหญ่ด้วยเพราะแค่ขนาดพื้นที่เพียงอย่างเดียว แต่มีประวัติและความเป็นมาที่น่าสนใจและยิ่งใหญ่ด้วยเช่นกัน
เพื่อนๆสามารถสแกนดูกันก่อนได้ว่าในสวนสาธารณะโอลิมปิก มีส่วนไหนให้เราเดินเที่ยวได้บ้างจากแผนที่ที่ ทีมงาน จะไปเกาหลี ได้ทำมาให้ดูกันง่ายๆแต่ขอบอกไว้ก่อนเลยว่า เห็นเล็กๆแบบนี้ ของจริงเดินกันเป็นชั่วโมงกันเลยจ้า…
เนื่องจากพื้นที่ของสวนสาธารณะแห่งนี้ค่อนข้างใหญ่ เราจึงสามารถเดินทางมาลงได้ 2 สถานีรถไฟ คือ “สถานีโอลลิมปิกคงวอน” Olympic Park (สาย 5) และ “สถานีมงช่นโท่ซอง” Mongchontoseong (สาย 8)
จุดที่ 1 : สวนกุหลาบ ทุ่งดอกไม้ป่า
ถ้ามาจากฝั่งสถานี Olympic Park ให้เดินออกประตู 3 เราก็จะเห็นทางเข้า เห็นคาเฟ่ มีลานจอดรถของหลากหลายสเตเดียมเลย เราอาจจะเริ่มต้นด้วยการชมสวนดอกกุหลาบ และดอกไม้ป่าก่อนได้ โดยให้มองหาป้ายทางมา K Art Hall
ส่วนที่เป็นกุหลาบและทุ่งดอกไม้ป่าจะอยู่ใกล้ๆกัน จุดสังเกตคือลูกบอลยักษ์ (ตอนแรกนึกว่าโปเกบอล) ถ้าเห็นตรงนี้ก็จะเห็นทุ่งดอกกุหลาบ และข้างๆเป็นทุ่งดอกไม้ป่า
ดอกกุหลาบที่นำมาจัดแสดง และให้ถ่ายรูปด้วยนั้นก็มีหลากหลายสี หลากสายพันธ์ สวยจริงๆ กลีบนี่เยอะ เห็นครั้งแรกนึกว่าเป็นดอกบัว!
จุดที่ 2 : ทุ่งหญ้ามูลี่ย์ สีชมพู
จากนั้นก็สามารถเดินตามเส้นทาง ตรงไปเรื่อยๆ จะเห็นส่วนที่เป็นซุ้มดอกไม้อีกโซน ในช่วงฤดูใบไม้ร่วงนี้เราจะได้เห็นทุ่งดอกไม้ชมพู เป็นสีชมพูเรียงสวยงาม มีชื่อเป็นภาษาอังกฤษว่า หญ้ามูลี่ย์ (Muhly grass) และดอกที่เป็นสีขาวๆนี้ คือ ดอกกุอาร่า Gaura ดอกเล็กๆ ว่ากันว่าเป็นหญ้าที่สามารถพบได้ในเมืองหนาว อย่างหญ้ามูลี่ย์นี้ก็นำมาจากแถบตะวันออกเฉียงใต้ของสหรัฐอเมริกา
จุดที่ 3 : ต้นไม้โดดเดี่ยว ‘นาฮลโลนามู’
ตรงไปอีกเรื่อยๆ ตามทางเราจะเห็นเป็นเนิน พร้อมกับลานโล่งๆ กว้างๆ ตรงนี้เป็นที่ตั้งของ “ต้นไม้โดดเดี่ยว” หรือ The lonely tree ที่ฝรั่งเรียกกัน มีชื่อเป็นภาษาเกาหลีว่า นาฮลโลนามู (나홀로나무) ซึ่งชื่อก็ตามตัวเลยว่าเป็นต้นไม้โดดเดี่ยว คนจะชอบไปถ่ายรูปโดยเฉพาะช่วงหน้าหนาว เพราะแวดล้อมตรงนั้น ต้นไม้แทบจะไม่เหลือเลย เหลือเพียงต้นไม้ต้นนั้นต้นเดียว ซึ่งก็เป็นอีกหนึ่งสัญลักษณ์ที่ทำให้ใครอยากมา แต่จะได้ภาพสวยหรือเปล่านั้น ก็ขึ้นอยู่กับช่วงเวลาที่ไปด้วย เพราะสถานที่ยอดนิยมแบบนี้ ใครๆต่างก็อยากจะมาถ่ายรูปกับเจ้าต้นไม้ต้นนี้
จุดที่ 4 : ต้นไม้เปลี่ยนสีรอบๆสวนสาธารณะ
ตรงมาเรื่อยๆตามทาง ก็จะเป็นอีกฝั่งหนึ่งของสวนสาธารณะ (ฝั่งสถานี Mongchontoseong) ตรงนี้ก็จะใกล้กับ “ประตูสันติภาพโลก” (The world peace gate) ก็สามารถไปถ่ายรูปบริเวณนั้นได้ หรือถ้าใครอยากจะเดินมาให้จบครบรอบ กลับมาทางสเตเดียมก็ย่อมได้อีกเช่นกัน แต่ระยะทางก็จะไกลไปอีก ดังนั้นใครที่ไม่ได้เผื่อเวลาไว้กับตรงนี้ หรือมีแผนจะเดินทางไปไหนต่อ ก็แนะนำว่าให้เปิดแผนที่ดูเรื่อยๆ
แถวนี้ก็มีร้านสะดวกซื้อและสิ่งอำนวยความสะดวกอย่างห้องน้ำอยู่เช่นกัน ใครที่กลัวว่าจะมาหิวน้ำ เป็นลม หลงป่า ก็ไม่ต้องกลัวไป แน่นอนว่าในวันที่อากาศดีๆ ก็จะมีคนเยอะหน่อย แต่ไม่ต้องห่วงว่าคนเยอะแล้วจะหมดสนุก เพราะว่าธรรมชาติก็ได้เตรียมอะไรสวยๆงามๆ รอให้เรามาถ่ายรูปด้วยเช่นกัน
ใครเป็นแฟนคลับศิลปิน JYP ก็สามารถไปต่อกันได้ที่ ตึกใหม่ของ JYP ไปชิมไอศกรีมออร์แกนิคที่ตึกนี้กันได้ เพราะอยู่ไม่ใกล้ไม่ไกลจาก Olympic Park เลย สำหรับรีวิวและพิกัดก็สามารถไปอ่านต่อได้ที่ > ส่องตึกใหม่ JYP กินไอศกรีมออร์แกนิค ในคาเฟ่ SOUL CUP ของ JYP!
ยังไงก็อย่าลืมติดตามรีวิวสถานที่ท่องเที่ยวใหม่ๆ ผ่านทางเพจ จะไปเกาหลี (JapaiKorea.com) กันด้วยนะ !