ที่เกาหลีใต้ การใส่ชุดเครื่องแบบนักเรียนยังคงเป็นระเบียบบังคับจนถึงระดับชั้นมัธยมปลาย รวมไปถึงระเบียบการแต่งกายไม่ว่าจะเป็นรองเท้า กระเป๋านักเรียน บางโรงเรียนที่เข้มงวดนั้นก็จะบังคับให้ใช้สีเดียวกัน ซึ่งในปัจจุบันหลายๆโรงเรียนก็มีผ่อนปรนระเบียบนี้ เหลือแค่เพียงการใส่เครื่องแบบนักเรียนเพียงอย่างเดียว
เครื่องแบบของนักเรียนเกาหลี
ในประเทศที่มี 4 ฤดู (ฤดูใบไม้ผลิ,ฤดูร้อน,ฤดูใบไม้ร่วง และฤดูหนาว) อย่างเกาหลีใต้ การแต่งกายก็จำเป็นที่จะต้องปรับให้เข้ากับสภาพแวดล้อมด้วย เครื่องแบบการแต่งกายของนักเรียนเกาหลีจึงแบ่งเป็น 2 แบบ คือ ฮาบก (하복) เครื่องแบบในฤดูร้อน และ ทงบก (동복) เครื่องแต่งกายในฤดูหนาว
ถ้าว่าประเทศไทย การแต่งเครื่องแบบนักเรียนจะช่วยลดความเหลื่อมล้ำทางสถานะทางการเงิน ก็อาจจะพูดได้ยากสำหรับที่เกาหลี เพราะว่าการแข่งขันของแบรนด์เสื้อผ้าชุดนักเรียนในเกาหลีถือว่าค่อนข้างสูงเช่นกัน ไม่แตกต่างกับแบรนด์เสื้อผ้าปกติที่มีการชูเรื่องความสบายในการสวมใส่ ความอบอุ่น การนำศิลปิน K-POP มาใช้ในการตลาดเพื่อดึงดูด ก็ดูเหมือนจะเป็นเรื่องธรรมดาที่ไม่ว่าแบรนด์ไหนๆก็ล้วนทำกัน (ถ้าเงินถึงพอ)


ค่าใช้จ่ายโดยรวมของเครื่องแบบนักเรียนในเกาหลี
หน้าร้อน : กางเกง-กระโปรง (~55,000 วอน : 1,650 บาท), เชิ้ต (~30,000 วอน : 900 บาท)
หน้าหนาว : กางเกง-กระโปรง (~65,000 วอน : 1,950 บาท), เชิ้ต (~40,000 วอน : 1,200 บาท)
ทั้งหมดนี้เป็นราคาต่อชุดและยังไม่รวมค่าใช้จ่ายอื่นๆ ไม่ว่าจะเป็นแจ๊คเก็ต หรือเสื้อคลุมที่เป็นไปตามระเบียบของโรงเรียน โดยรวมๆแล้ว ค่าใช้จ่ายที่หมดไปกับเครื่องแบบนักเรียนทั้งสองฤดูนั้น อาจเกิน 300,000 วอน หรือประมาณ 9,000 บาท
เหนือชุดนักเรียน ยังมีแจ็คเกต..
เรื่องให้เสียเงินสำหรับผู้ปกครองเกาหลีไม่ได้มีแค่ค่าชุดนักเรียนที่มีราคาสูง แต่ด้วยสภาพอากาศหนาว ทำให้มีค่าใช้จ่ายส่วนของเสื้อกันหนาวที่เพิ่มเข้ามา และการตลาดของเกาหลีที่ดุเดือด ทำให้ความรู้สึกที่ว่า “ของมันต้องมี” นี้ มากลายเป็นอีกภาระที่กดดันผู้ปกครอง
ไม่ใช่เป็นเรื่องที่หลายคนจะคิดกันไปเอง แต่เริ่มมาตั้งแต่ช่วงปี 2000 ที่ เสื้อดัฟเฟิลโค้ท (Duffle coat) ที่คนเกาหลีเรียกกันว่า “โค้ทต๊อกปกกิ” (เพราะกระดุมมีลักษณะคล้ายกับต๊อกปกกี) นั้น ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก

มาจนถึงช่วงปีต้นๆปี 2010 ปีของเสื้อกันหนาวจากแบรนด์ “The North Face” ที่แสดงความพิเศษกว่าเสื้อกันหนาวแบรนด์อื่นๆ ด้วยคุณภาพที่ดีกว่า อุ่นกว่า เป็นของที่เด็กระดับชั้นมัธยมต้นต้องมี ในขณะที่ผู้ปกครองต้องควักเงินซื้อในราคาตัวละ 4-5 พันบาท

ในช่วงปีสองปีที่ผ่านมาเทรนด์ ลองแพดดิ้ง (Long padding) หรือ เสื้อกันหนาวตัวยาว ก็มาเป็นอีกหนึ่งสัญลักษณ์ของแฟชั่นฤดูหนาวในช่วงนี้ หลากหลายแบรนด์ต่างทำกันออกมา และได้นำร่องตั้งแต่ช่วงเทศกาลโอลิมปิกฤดูหนาวในปี 2017 ที่ผ่านมา ที่ได้มีการจัดทำเป็นสินค้า Official ประจำงานไปด้วย โดยชูเรื่องของความอุ่น ที่สามารถป้องกันลมหนาวไปจนถึงบริเวณขา

เป็นผู้ปกครองเกาหลีก็เหนื่อและน่าเห็นใจเช่นกันนะเนี่ย
อ้างอิงข้อมูลและรูปภาพ
- http://www.koreaherald.com/view.php?ud=20190108000514&fbclid=IwAR3nTcuedGIZZYjrVTcTDq433EHG6igbi2dxcIJunh_JzCjHPNa9hZfkxIk
- https://namu.wiki/w/%EA%B5%90%EB%B3%B5
- http://www.newscj.com/news/articleView.html?idxno=137680
ห้ามคัดลอกบทความไปลงในช่องทางอื่นโดยไม่ได้รับอนุญาต กรุณาแชร์ลิงก์ของบทความแทน
เรียบเรียงโดย ทีมงานจะไปเกาหลี (JapaiKorea.com)
ติดตามกันต่อ!
Twitter จะไปเกาหลี (@Japai_Korea)